top of page

lIFE

HOW ARE YOU?

KNOW THYSELF

เรียนรู้ เพื่อไปต่อ

โดยธรรมชาติแล้วคนเราจะพัฒนาตนเองขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ระดับที่ดีขึ้นๆ จนในที่สุดจะถึงจุดที่การพัฒนานั้นช้าลงจนถึงขั้นหยุดชะงัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบุคคลผู้นั้นจะไม่สามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้ คนเราเจอป้ญหาและแก้ปัญหา เราทุกคนเติบโตภายใต้ความกดดัน ซึ่งความกดดันและปัญหาบางจุดในชีวิตจะสร้างผลกระทบที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราไปตลอดกาล ในบางครั้งการแก้ปัญหาหรือการรับมือกับมันก็ต้องการรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิม ไอสไตน์เคยกล่าวไว้ว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาของเราด้วยความคิดระดับเดียวกันกับความคิดที่สร้างมันขึ้นมาได้ (we cannot solve our problems with the same thinking we used when we created them) เมื่อความคิดและความรู้สึกเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันกับตัวเรา การรู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขปริศนา สร้างการเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงกระบวนคิด เพื่อยกระดับความคิดให้ก้าวขึ้นเหนือภูมิที่สร้างมันขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจรับมือกับมันด้วยตัวของเราเอง และเข้าสู่เส้นทางของการพัฒนาในระดับต่อไป

lighting-wallpaper-hd-0.jpg

การบำบัดจิตใต้สำนึก

และการคลายปมชีวิตด้วยวิธีการทาง NLP

เรามีจิตสองชนิดอยู่ในตัว จิตชนิดแรกคือจิตที่เราพอจะบังคับควบคุมได้ ให้คิดให้วิเคราะห์ใช้ตัดสินใจได้  เป็นจิตที่เราใช้รับรู้เข้าใจใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นจิตที่ทำให้เราคิดว่าเราคือเราคนนี้ ซึ่งจิตชนิดนี้เรียกว่าจิตสำนึก และจิตอีกชนิดที่เราแทบจะไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสเพราะเราตั้งใจควบคุมบังคับไม่ได้ซึ่งทำงานโดยอัตโนมัติตลอดเวลาแม้ในขณะที่เราหลับ เป็นจิตที่มีผลต่อความรู้สึกของเราและชี้นำเราในเหตุการณ์ต่างๆของชีวิตโดยเฉพาะเมื่อเราต้องตัดสินใจ จิตชนิดนี้เรียกว่าจิตใต้สำนึก หากจะเปรียบเทียบกับร่างกายแล้ว จิตสำนึกเปรียบเสมือนการที่เราบังคับควบคุมร่างกายให้เคลื่อนไหวแขน ขา ตา ปาก เพื่อทำท่าทางให้ทำงานได้อย่างที่ต้องการ ในขณะที่จิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนอวัยวะภายในอย่างหัวใจ ม้าม ตับ ปอด ทำงานอัตโนมัติโดยที่เราไม่สามารถบังคับควบคุมได้แม้เราจะต้องการควบคุมก็ตาม เป็นต้น

จิตแบบที่สองนี่เอง ที่ทำงานกับระบบความรู้สึก/ความเชื่อของเราและส่งผลผลักดันให้เราดำเนินชีวิตไปในทิศทางต่างๆตามความรู้สึก/ความเชื่อหรือบทสรุปจากการตีความของเราเองในด้านต่างๆของชีวิต มันเปรียบเสมือนเป็นพิมพ์เขียวชีวิตของเราที่เราจะต้องใช้ชีวิตไปตามพิมพ์เขียวที่ออกแบบมานี้ มันจะชี้นำเราโดยอิงจากความรู้สึกและการสรุปความในอดีต จากอารมณ์อันเข้มข้นที่มาจากเหตุการณ์ที่สะเทือนใจในอดีตทั้งทางบวกและทางลบ จะเกิดอะไรขึ้นหากความเชื่อและบทสรุปส่วนใหญ่ในชีวิตของเราเป็นไปในทางลบ? จะเกิดอะไรขึ้นหากความเชื่อและบทสรุปนั้นส่งผลกระทบกับชีวิตของเราในด้านลบ? จะเกิดอะไรขึ้นหากพิมพ์เขียวชีวิตแผ่นนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคและบทเรียนที่เราไม่เคยสอบผ่านและไม่อาจก้าวข้ามได้? การไม่รู้สึกถึงความสุข ความสับสนในชีวิต กังวลและกังขากับสิ่งที่กำลังทำ การไม่รู้จักตนเอง การไม่เข้าใจผู้อื่น ไม่ต้องการสังคม วิตกกังวลและมีความคิดต่อสิ่งต่างๆในเชิงลบ ความหวาดกลัวความหวาดระแวงไม่ไว้ใจและโทษสิ่งต่างๆภายนอก ความไม่มั่นใจและไม่ภาคภูมิใจในตนเอง ความรู้สึกโหยหาในบางสิ่งบางอย่างที่ไม่จบสิ้น ความรู้สึกขาดแคลนที่ไม่เคยเต็ม ความรู้สึกว่าไม่ถูกต้องทำให้รู้สึกผิดในใจลึกๆตลอดเวลาและไม่อาจวางใจได้ ความโกรธที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในและยังคุ-กรุ่นอยู่ข้างในลึกๆ ความขุ่นเคืองที่ฟุ้งอยู่เสมอไม่เคยดับเพียงรอคอยการสะกิด ความแค้นที่ฝังลึกติดแน่นไม่เคยทำให้เราสงบและยังคงปรารถนาการแก้แค้น การไม่สามารถสงบใจและใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อการใคร่ครวญไตร่ตรองพัฒนา การทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องทำ การพบเจอกับเหตุการณ์รูปแบบเดิมๆและลงเอยแบบเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเจ็บป่วยทางสุขภาพกายที่หาสาเหตุไม่ได้ การตัดสินใจที่ส่งผลไปด้านลบกับชีวิตเสมอๆ ความเศร้าที่ท่วมท้นจนกดทับให้เราไม่อาจทำสิ่งใดได้อีกต่อไป การเหนื่อยหน่ายกับชีวิตไม่อยากที่จะเดินต่อและต้องการยุติลมหายใจของตัวเอง และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เรารู้สึกขัดแย้งอยู่ภายในใจและทำให้ไม่มีความสุข สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างของการส่งผลจากจิตใต้สำนึกทางด้านลบซึ่งล้วนถูกสร้างมาจากตัวเราเองที่ทำการสรุปความจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกและจิตใจของเราในอดีต หากเรารู้ตัวว่าเรามีสิ่งเหล่านี้อยู่และมันเป็นอุปสรรคในชีวิตของเรา เราจะทำอย่างไร?

สิ่งที่เราทำได้คือการค้นหาปรับเปลี่ยนแก้ไขความเชื่อและบทสรุปในทางลบเหล่านั้น เพื่อการปรับเปลี่ยนแก้ไขพิมพ์เขียวชีวิตของเราให้เป็นไปในแบบที่เราต้องการ เพื่อการออกแบบชีวิตและกลับมาควบคุมชีวิตของเราอีกครั้ง เพื่อทำให้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อทำให้เป็นแหล่งพลังงานของจิตใต้สำนึกในการส่งผลทางด้านที่ดีแก่ชีวิตของเรา เพื่อการเป็นอิสระจากความรู้สึกบางอย่างที่คอยฉุดรั้งเราไว้ เพื่อความเป็นตัวของเราเองอย่างแท้จริง เพื่อความสามารถที่จะอยู่กับตัวของเราเองได้อย่างสบายใจปลอดภัยและมั่นใจ เพื่อความสามารถที่จะกลับมามีความสุขอีกครั้ง เพื่อคืนกลับสู่ความเป็นมนุษย์คนนึงที่เป็นสมาชิกของโลกใบนี้อย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งตัวเองและคนรอบข้าง จนถึงการเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่เชื่อมต่ออยู่กับเรา นั่นคือความหมายของการคลายปมชีวิตและบำบัดจิตใต้สำนึก ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องพื้นฐานอันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ หาใช่เป็นเรื่องความผิดปกติทางจิตแต่อย่างใดไม่ และผู้ที่ช่วยเราจากสิ่งเหล่านั้นคือโค้ชชีวิตและนักบำบัดจิตใต้สำนึกนั่นเอง

 

BETTER MIND SERVICES

Conversation.jpg

การบำบัดเชิงโค้ช

บำบัดจิตใต้สำนึกในปัญหาของคุณที่เชื่อมโยงกับทุกมิติของชีวิต การงาน การเงิน ความรัก ความสัมพันธ์ สุขภาพ สังคม การรู้จักตัวเอง การเข้าใจผู้อื่น และการเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ 

THERAPEUTIC COACHING

Ton1.jpg

คอร์สฝึกอบรม

ตรวจสอบคอร์สอบรมที่เปิดสอน

TRAINING COURSES

maxresdefault (3).jpg

พลังงานและการเยียวยา

ก้าวเข้าสู่ทางเลือกของการบำบัดอีกรูปแบบหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า 

ENERGY HEALING

ไพ่นาคราช.jpg

ให้คำปรึกษาผ่านไพ่ยิปซีและไพ่นาคราช

GUIDANCE & INSPIRATION

Learn More
albert-einstein-9285408-1-402.jpg

Einstine

“LIFE is like riding a bicycle. To keep your BALANCE, you must KEEP MOVING.”

"ชีวิตก็เหมือนกับการขี่จักยาน เพื่อรักษาสมดุล คุณต้องเคลื่อนต่อไป"

CoachTon.jpg

ครูพี่ต้น ชิษณุพงศ์

บำบัดเคสปมชีวิตที่พัฒนาจนกลายเป็นความเชื่ออันเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นชีวิตสำหรับการพัฒนา การเติบโต และการก้าวข้าม ด้วยเทคนิคทาง NLP ผ่าน วิทยาศาสตร์ ธรรมะ ปรัชญา และ เรื่องเล่าของชีวิต นอกจากนั้นยังช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากความเชื่อและการตัดสินใจบางอย่างในอดีต

ครูพี่ต้นเคยทำงานทางด้านไอทีมาเกือบยี่สิบปีในส่วนของวิศวกรรมระบบ การบริหารทีมบริการ และการบริหารโครงการไอทีในฐานะผู้จัดการโครงการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้ความรู้ในด้านเทคนิค การบริการ และการพัฒนาตนเอง

Subscribe Form

Stay up to date

bottom of page